ราคาตารางผ่อน – ดาวน์ 2024 Ora 07 รถยนต์ไฟฟ้า
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Ora 07 ที่เปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ มีราคาผ่อนเริ่มต้นอยู่ที่ 16,598 บาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ราคาผ่อนเริ่มต้น: 16,598 บาท
- ดาวน์ 2024: 10% หรือ 62,100 บาท
- ระยะเวลาผ่อน: 84 งวด
โดยราคานี้เป็นราคาที่ยังไม่รวมค่าประกันภัยและค่าจดทะเบียน ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม Ora ทั่วประเทศ
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย ORA 07 2024
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
- ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA&RCTB)
- เซนเซอร์กะระยะ 4 จุดด้านหน้า และ 4 จุดด้านหลัง สำหรับรุ่น LONG RANGE และ 6 จุดด้านหน้า และ 6 จุดด้านหลัง สำหรับรุ่น PERFORMANCE
- คันเร่งอัจฉริยะ (Intelligent One Pedal) สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว
- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
- ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)
- ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS)
- ระบบจ่ายกระแสไฟ (V2L) เทคโนโลยีที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นแหล่งไฟฟ้าที่สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ได้ในยามจำเป็น
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) และระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) เฉพาะรุ่น PERFORMANCE เท่านั้น
ขุมพลัง ORA 07 2024 2025
ORA 07 มาในสองรุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น LONG RANGE และรุ่น PERFORMANCE ซึ่งทั้งสองรุ่นขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ความจุ 83.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทรงประสิทธิภาพทั้งด้านพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย สำหรับรุ่น LONG RANGE นั้นมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 340 นิวตัน-เมตร วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 640 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC Standard)
รุ่น PERFORMANCE มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 300 กิโลวัตต์ หรือ 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 680 นิวตัน-เมตร วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 550 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC Standard) พร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยรุ่น PERFORMANCE นี้สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ในเวลาเพียง 4.3 วินาที ยิ่งไปกว่านั้น ORA 07 มาพร้อมโหมดการขับขี่ให้ผู้ขับขี่ได้เลือกใช้งานถึง 6 โหมด ได้แก่
- โหมดประหยัด
- โหมด WELL BEING
- โหมดปกติ
- โหมดสปอร์ต
- โหมดสปอร์ตพลัส
- โหมดส่วนบุคคล
ภายนอก ORA 07 2023-2024
การออกแบบภายนอกของ ORA 07 มาด้วยรูปร่างซูเปอร์สตรีมไลน์ ซึ่งลายเส้นโค้งพลิ้วไหวจะมอบสมดุลระหว่างความหรูหราและความสปอร์ตได้อย่างพอดี ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สัน และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ที่ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่
ดีไซน์ด้านหน้าของตัวรถถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ของรถซูเปอร์คาร์เพื่อเพิ่มแรงกด ด้วยกระจังหน้าที่ถูกออกแบบตามประกายแสงบนผิวน้ำยามแสงแดดสะท้อนลงมา รับฝากระโปรงหน้าทรงหยดน้ำที่เว้าลงและนูนขึ้นทั้งสองด้าน ไฟหน้า Intelligent LED ทรงกลมแบบเรโทรเพื่อเพิ่มความสปอร์ตอย่างเต็มพิกัด มอบทั้งความสว่างความปลอดภัยด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ
- ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ
- ฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่อง (Follow Me Home) พร้อม Daytime Running Light
- ไฟตัดหมอกด้านหน้าแบบ LED
- หน้าต่างไร้กรอบที่เป็นกระจกแบบ 2 ชั้น เพื่อช่วยในเรื่องของการดูดซับเสียง โดยจะเลื่อนลงเมื่อเปิดประตู และเลื่อนปิดโดยอัตโนมัติเมื่อปิดประตู
- ส่วนด้านหลังของรถถูกออกแบบด้วยดีไซน์ Fast-Back ไฟท้ายรูปทรงวงรีแบบ LED และหลังคาแก้วแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ (Panoramic Glass Roof) ตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้ายที่มีคุณสมบัติช่วยเก็บเสียง กรองแสง และลดความร้อน รวมถึงช่วยให้ภายในห้องโดยสารดูโปร่งมากขึ้น ซึ่งในรุ่น PERFORMANCE จะมีความพิเศษมากขึ้นด้วยประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าระบบแฮนด์ฟรี และสปอยเลอร์ไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชัน เปิด-ปิดอัตโนมัติที่สามารถตั้งให้เปิดเมื่อปลดล็อกรถ หรือเมื่อความเร็วถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ORA 07 ยังยกระดับภาพลักษณ์การขับขี่ให้หรูหราและมั่นใจด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/50 R18 ในรุ่น LONG RANGE และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วที่มีลักษณะคล้ายอุ้งแมว พร้อมยางขนาด 235/45 R19 ในรุ่น PERFORMANCE
ภายใน ORA 07 2023-2024
ORA 07 ได้รับการตกแต่งภายในเป็นแบบเรโทรที่แฝงความลักซ์ชัวรี ผสมผสานระหว่างเส้นโค้งและเหลี่ยมมุมได้อย่างลงตัว ด้วยห้องโดยสารแบบซุปเปอร์คาร์ พร้อมกับคอนโซลกลางรูปตัว T ลำโพง Infinity® คุณภาพสูง 11 ตัว (สำหรับรุ่น PERFORMANCE) ที่ทำงานร่วมกับระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระและระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ ฟังก์ชันไฟตกแต่งห้องโดยสารแบบหลากสีและเป็นจังหวะ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อม PM2.5 filter และระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
มาพร้อมกับที่จับประตูเปิดอัตโนมัติแบบไฟฟ้า เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับแบบไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง และระบบดันหลังปรับไฟฟ้า ซึ่งเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 มีที่พักแขนตอนกลาง และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมช่องเสียบ USB A และ USB C
สำหรับรุ่น PERFORMANCE จะมีระบบ Memory Seat ระบบ Welcome Seat ระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ เพิ่มเข้ามาเป็นพิเศษเพื่อมอบความสะดวกสบายอีกขั้นให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับเบาะแยกได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่และความสะดวกในการใช้สอยตามอเนกประสงค์ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถสัมผัสความสะดวกสบายขั้นสูงสุดผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง, และแสดงข้อมูลการขับขี่ โดยหน้าจอกลางอัจฉริยะนี้สามารถเชื่อมต่อกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว
และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า (สำหรับรุ่นPERFORMANCE) พวงมาลัยปรับแบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและสวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ เกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้าแบบก้านด้านหลังพวงมาลัย และระบบ Intelligent Quick Start System ที่ช่วยให้รถพร้อมออกเดินทางได้ทันทีเมื่อนั่งบนเบาะคนขับและเหยียบเบรก
ใครๆ ก็ซื้อได้เลย เริ่ด
โอ้โห ถูกจนน่าตกใจ
ผ่อนถูกกว่าซื้อข้าวอีก
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีรถไฟฟ้าผ่อนได้ถูกขนาดนี้
ถูกเกินไปแล้วมั้งเนี่ย
ยิ่งมีแต่จะแพง ใครจะไปซื้
อิอิ ชอบจังเลย
ต้องรีบไปซื้อแล้ว เดี๋ยวของหมด
อัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ครับ
แล้วแบตเตอรี่หมดแล้วจะทำยังไง
รถไฟฟ้าต้องรุ่นนี้เลย คุ้มสุด
โอ้โห ถูกกว่าดาวน์รถเก่าๆ อีก